Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

2021 Honda CB350 H’ness VS 2021 Royal Enfield Meteor 350

blank

ห่างหายจากการนำเอาสองโมเดลรถมอเตอร์ไซค์มาเปรียบเทียบให้เห็นถึงความเหมือน หรือแตกต่าง กันไปนานพอสมควร การกลับมาในครั้งนี้เลยขอหยิบเอาสองโมเดลที่เป็นที่กล่าวถึงเป็นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่าน ระหว่าง 2021 Honda CB350 H’ness โมเดลเรโทรย้อนยุคจากค่ายปีกนก กับโมเดล Cruiser ย้อนยุคจากฝั่ง Royal Enfield กับเจ้า Meteor350 จะเหมือนหรือแตกต่างกันขนาดไหนไปติดตามกันได้เลยครับ

On5Msf
2020 Honda CB350 H’ness

Royal Enfield Meteor 350 1
2020 Royal Enfield Meteor350 “Fireball”

รูปแบบการดีไซน์

มาถึงข้อแรกก็เริ่มเห็นถึงความเหมือนที่แตกต่างกันในสองโมเดลกันแล้ว โดยรวมแล้วการออกแบบของเจ้า CB350 H’ness นั้นจะอิงไปกับรถมอเตอร์ไซค์ในแนว Street Retro ย้อนยุค แต่ก็ให้อารมณ์ของรถในแนวทาง Cruiser ไม่น้อยด้วยระยะฐานล้อที่ยาวถึง 1,441 มิลลิเมตร ยาวกว่าเจ้า Meteor350 ที่ออกแบบมาเพื่อให้เป็น Bobber Cruiser ที่มีระยะฐานล้อที่ 1,400 มิลลิเมตร แต่ดูแล้วเจ้า CB350 H’ness ดูจะให้ความคล่องตัว ที่สอดคล้องกับการใช้ในชีวิตประจำวันที่มากกว่า ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการเลือกใช้โครงสร้างแบบ Half Duplex Cradle ที่แตกต่างจาก Meteor350 ที่เลือกใช้โครงสร้างแบบ Twin Downtube Sprine Frame ที่มีน้ำหนักมากกว่า แต่เจ้า Meteor350 เองก็มีจุดเด่นด้วยแนวทางของตัวรถที่มาพร้อมกับความสูงของเบาะนั่งที่เหมาะกับทุกสรีระ ด้วยความสูงเพียง 765 มิลลิเมตร ซึ่งจะเตี้ยกว่า CB350 H’ness ที่มีความสูงเบาะนั่งที่ 800 มิลลิเมตร

On5IZb

เครื่องยนต์

เราเอาผู้มาก่อนอย่างเจ้า Meteor350 เป็นตัวตั้งและ CB350 H’ness เป็นข้อมูลถัดมานะครับ โดยทั้งสองจะมีขนาดของขุมกำลังที่แตกต่างกันเล็กน้อยขนาด 349 ซีซี และ 348.3 ซีซี โดยทั้งสองจะมีรูปแบบเครื่องยนต์ที่ใกล้เคียงกันด้วยรูปแบบ 1 ลูกสวูบ 4 จังหวะ SOHC แต่มีความต่างที่ระบบระบายความร้อน โดยเจ้า MEteor350 จะมาพร้อมกับระบบ Air+Oil ส่วน CB350 นั้นจะเป็นแบบระบายความร้อนด้วยอากาศเพียวๆ ขนาดกระบอกสูบxช่วงชัก อยู่ที่ 72×90 มิลลิเมตร และ 70×90.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 8.5:1 และ 9.5:1 ซึ่งเห็นผลอย่างชัดเจนเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่เจ้า Meteor จะทำได้ 41.88 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วน CB350 นั้นจะอยู่ที่ 45.8 กิโลเมตรต่อลิตร ในส่วนของข้อมูลประสิทธิภาพนั้น Meteor350 จะให้แรงม้าสูงสุด 20.2 แรงม้า (HP) ที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 27 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่วน CB350 นั้นจะมีกำลังสูงสุด 20.7 แรงม้า (HP) ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 30 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาที ซึ่งจะเห็นได้ว่าเจ้า CB350 H’ness นั้นให้กำลังและแรงบิดที่มากกว่า และด้วยรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำกว่า

royal enfield meteor 350 21 05

ฟีเจอร์บนตัวรถ

ด้วยความที่ทั้งสองเป็นโมเดลเรโทร และมีรูปแบบของตัวรถในลักษณ์ของ Entry Class ฟีเจอร์ของตัวรถจึงมีลักษณะที่ไม่หวือหวามากมายนัก ออกไปทางเบสิคด้วยการทำราคาให้ต่ำ แต่ทั้งสองยังมีทีเด็ดทีขาดที่แตกต่างกันไปสมควร โดยเจ้า Meteor350 มาพร้อมกับชุดช่วงล่างด้านหน้าแบบ Telescopic ขนาด 41 มิลลิเมตร พร้อมชุดจานดิสก์เบรกหน้าขนาด 300 มิลลิเมตร ปั้มเบรกแบบสองพอร์ต ชุดกันสะเทือนหลังแบบ Twin Tube Emulsion Shock ปรับระดับได้ ถึง 6 ระดับ พร้อมกับชุดเบรกดิสก์เดี่ยวขนาด 270 มิลลิมเตร ปั้มเบรกแบบพอร์ตเดี่ยว โดยมีระบบ ABS แบบ Dual Channel หน้าจอแสดงผลแบบอนาล็อกและมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครด้วยระบบนำทางแบบ Tripper Navigation ที่จะแยกชุดการทำงานจากหน้าจอแสดงผลปกติเป็นจุดขาย

ส่วนของเจ้า CB350 H’ness นั้นจะมีลักษณะที่ใกล้เคียงกันกับ Meteor350 ด้วยชุดกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic ขนาด 38 มิลลิเมตร พร้อมชุดจานดิสก์เบรกหน้าขนาด 310 มิลลิเมตร ปั้มเบรกแบบสองพอร์ต ชุดกันสะเทือนหลังแบบ Dual Hydraukic Shock พร้อมกับชุดเบรกดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มิลลิมเตร ปั้มเบรกแบบพอร์ตเดี่ยว โดยมีระบบ ABS แบบ Dual Channel ซึ่งจะเห็นได้ว่าขนาดของจานดิสก์เบรกด้านหน้าที่ใหญ่กว่า 10 มิลลิเมตร จะมีประสิทธิภาพในการชะลอและหยุดตัวรถที่เหนือกว่า จากการทดสอบนั้น การเบรกในระดับความเร็ว 60-0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Meteor350 จะมีระยะเบรกที่ 20.09 เมตร ส่วน CB350 นั้นจะอยู่ที่เพียง 16.87 เมตรเท่านั้น ในระดับความเร็วที่สูงขึ้น จาก100-0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Meteor350 จะมีระยะเบรกที่ 51.08 เมตร ส่วน CB350 นั้นจะมีระยะเบรกที่ 45.74 เมตร เท่านั้น นี้คือความต่างกันในเรื่องของระบบเบรก ส่วนจุดเด่นของเจ้า CB350 ที่เหนือกว่าก็คือการใส่ระบบ Honda Smartphone Voice Control มาให้พร้อมใช้งาน แต่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีอุปกรณ์หูฟังแบบ Bluetooth ในการใช้งานอีกด้วย

61f360ec royal enfield meteor 350 02

ราคาและความคุ้มค่า

เนื่องจากทั้งสองโมเดลนั้น มีเพียง Royal Enfield Meteor350 เท่านั้นที่มีการทำตลาดในประเทศไทยณ เวลานี้ จึงทำให้การเปรียบเทียบความคุ้มค่าในเรื่องของราคานั้น ของอิงกับราคาจำหน่ายในประเทศอินเดียที่เป็นผู้ผลิตทั้งสองโมเดลนะครับ โดยเจ้า Meteor350 นั้นถูกแบ่งซอยย่อยไปอีก 3 รุ่น ตามการตกแต่งและอุปกรณ์เสริมที่แตกต่างกัน โดยเจ้ารุ่นมาตรฐาน Fireball จะมีราคาจำหน่ายแปลงเป็นเงินไทยอยู่ที่ 80,860 บาท ส่วนเจ้า CB350 H’ness นั้นจะมีสองรุ่นย่อย ซึ่งในรุ่นมาตรฐานจะมีราคาจำหน่ายแปลงเป็นเงินไทยอยู่ที่ 81,885 บาท ซึ่งทั้งสองโมเดลมีความต่างกันในเรื่องของราคาเพียง 1,300 +- ถ้าให้มองไปที่ความคุ้มค่าและหลากหลายแล้ว Meteor350 จะมีตัวเลือกที่หลากหลายกว่าในแง่ของการตกแต่งและอุปกรณ์แต่ยังคงอยู่ในแนวทางของ Bobber Cruiser ทั้งสามรุ่นย่อย ตรงข้ามกับ CB350 ที่มีรุ่นย่อยเพียง 2 รุ่นคือรุ่น H’ness ที่เรามาเทียบกัน กับเจ้า CB350RS ที่ปรับลุกส์ให้เป็น Modern Classic ด้วยรูปแบบที่ร่วมสมัยมากขึ้น โดยมีราคาจำหน่ายที่ต่างจากรุ่นหลักเพียงเล็กน้อย ดังนั้นแล้วขึ้นอยู่กับมุมมองและความชอบของผู้ซื้อแล้วล่ะครับ

cb350

บทสรุป 2021 Royal Enfield Meteor350 VS 2021 Honda CB350 H’ness

นี้คือบางส่วนของการเปรียบเทียบกันระหว่างสองโมเดล 2021 Royal Enfield Meteor350 กับ 2021 Honda CB350 H’ness ซึ่งยังคงมีอีกหนึ่งโมเดลที่ยังไม่มีการนำเข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่แว่วๆ มาว่า AP.Honda เองก็ไม่น่าจะพลาดการนำเอาโมเดลที่มีหลายๆ คนเรียกร้องเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการเปิดตัวในช่วงเวลาไหน และจะเป็นงานนำเข้ามาจากอินเดียแบบทั้งคันหรือว่าจะขึ้นแปลนผลิตในประเทศ ซึ่งจะมีผลต่อการทำราคา ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าเจ้า Meteor350 ที่ผลิตในประเทศไทยนั้นค่อนข้างมีราคาที่ดีดจากอินเดียไปไกลพอสมควร (เริ่มต้นที่ 150,000 บาท) โดยส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยหลักก็คือค่าครองชีพ ที่ประเทศอินเดียมีอัตราค่าจ้างต่อหนึ่งคนที่ต่ำกว่าประเทศไทย ดังนั้นหากจะนำเอาเจ้า CB350 H’ness เข้ามาทำตลาดในรูปแบบของนำเข้าทั้งคัน หรือขึ้นไลน์ประกอบในประเทศไทย ก็ไม่มีทางที่ราคาจำหน่ายต่อหน่วยจะต่ำกว่า 130,000 บาท อย่างแน่นอน