10 รถมอเตอร์ไซค์ ราคาโคตรแพง ประจำปี 2025
ในโลกของรถมอเตอร์ไซค์ เราได้เห็นผลิตภัณฑ์มากมาย จากหลายผู้ผลิต ที่มีทั้งดีราคาเป็นมิตร และมีอีกหลายๆ รุ่น ที่ราคาค่าตัวของมัน ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับกระเป๋าเงินเราสักเท่าไหร่ และในวันนี้เอง เราจะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จัดเบื้องต้นกับ 10 รถมอเตอร์ไซค์ที่มีจำหน่ายในปี 2025 ที่มีราคาโคตรแพงกัน
Harley-Davidson CVO Road Glide ST ราคา 1.9 ล้านบาท
เริ่มต้นกันเบาๆ กับแบรนด์ตราโล่ห์ Harley-Davidson กับพี่ดุก CVO Road Glide ST ที่ถือว่าเป็น American Muscle Bike ขนาดแท้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V-twin 1,977 ซีซี กำลัง 126 แรงม้า (bhp) แรงบิด 142 lb-ft และมีน้ำหนักตัวร่วมๆ 380 กิโลกรัม โดยตัวรถ CVO จะย่อมาจาก Custom Vehicle Operations ซึ่งหมายความว่า ตัวรถนั้น รองรับการตกแต่งเพิ่มเติมแบบไม่จำกัด และเมื่อตัวรถที่พ่วงมากับรหัส ST ก็จะพ่วงมากับออฟชั่นระดับเทพ และพ่วงมากับราคาที่สูงลิบแบบนี้
Norton V4 SV ราคา 1.94 ล้านบาท
ซูเปอร์ไบค์เรือธงของบริษัทสัญชาติอังกฤษ ที่ฟื้นคืนชีพจากการล้มละลาย แต่กลับมายืนได้อย่างแข็งแรงอีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ผลิตอินเดีย โดยเจ้า Norton V4 SV คันนี้ มาพร้อมกับขุมกำลังแบบ V4 รุ่นใหม่ล่าสุด ขนาด 1,199 ซีซี ที่รีดกำลังได้ 185 แรงม้า (bhp) และแรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร อีกทั้งตัวรถยังมีเวอร์ชั่น คาเฟ่-เรซเซอร์ V4 CR เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในราคาที่ถูกกว่า (แต่ก็แพงอยู่ดี)
Kawasaki Ninja H2R ราคาประมาณ 2.2 ล้านบาท
ขยับมาที่รุ่นใหญ่สายสปอร์ต กับตัวเทพที่ถูกแบนในทุกๆ สนามแข่งอย่าง Kawasaki Ninja H2R ก่อนที่จะเข้าใจผิดไป สาเหตุหลักๆ ที่มันถูกแบนจากการแข่งขัน ก็เพราะตัวรถนั้นติดตั้งเครื่องยนต์ที่มีระบบเทอร์โบชาร์จ ที่สามารถรัดกำลังสูงสุดได้ 310 แรงม้า (hp) พร้อมกับแรงบิด 165 นิวตันเมตร และตัวรถนั้นมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า Kawasaki H2 ที่ใช้งานเครื่องยนต์รูปแบบเดียวกัน อีกทั้งยังมีการผลิตในจำนวนจำกัด จึงไม่น่าแปลกใจที่ตัวรถจะมีราคาที่สูงขนาดนี้
Brough Superior SS100 ราคา 2.65 ล้านบาท
อีกหนึ่งแบรนด์อังกฤษระดับพรีเมี่ยม ปลาหมึกแถวบน Brough Superior ซึ่งถือว่าเป็น Rolls Royce แบบสองล้อ โดยที่ SS100 ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์นำร่องของบริษัท ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเครื่องยนต์ใหม่ ที่แต่เดิมบริษัทมักจะเลือกใช้งานเครื่องยนต์แบบ Boxer แต่สำหรับเจ้า SS100 คันนี้ มาพร้อมกับขุมกำลัง V-twin ขนาด 997 ซีซี ที่สามารถรีดกำลังได้ 100 แรงม้า (bhp) พร้อมกับแรงบิด 90 นิวตันเมตร และสิ่งที่พิเศษกว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ ก็คือกระบวนการผลิตตัวรถ SS100 จะเป็นการผลิตด้วยฝีมือมนุษย์ โดยพึ่งพาเครื่องจักรน้อยที่สุด เรียกได้ว่ามันคืองานคราฟต์ทำมือ แต่ติดล้อวิ่งได้น่าจะเหมาะกว่า
Ducati Diavel “Bentley Edition” ราคา 2.56 ล้านบาท
โมเดลพิเศษ มักจะเกิดขึ้นในวาระพิเศษ และ Ducati Diavel “Bentley Edition” คันนี้ก็เข้ากับสมการนี้โดยตรง เพราะมันเป็นโมเดลพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึง Bentley ผู้ผลิตรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม แบบเดียวกับ Ducati อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าร่วมในกลุ่ม Volkswagen Audi ที่เป็นต้นสังกัดโดยตรงของ Ducati อีกด้วย ตัวรถจะมีการผลิตเพียง 500 คันเท่านั้น และตัวรถจะมีความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการพ้นสีที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับการทำสีตัวถังของรถยนต์ Bentley โดยทั้ง 500 คันนั้น ขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่กี่เดือน
Bimota Tesi H2 ราคา 2.65 ล้านบาท
แม้จะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2023 แต่ Bimota Tesi H2 ยังเป็นโมเดลที่ผลิตตามใจสั่งเท่านั้น ไม่มีการประกอบขึ้นมาวางจำหน่ายบนหน้าร้าน โดยตัวรถจะมีรากฐานมาจากขุมกำลังซุปเปอร์ชาร์จจาก Kawasaki H2 แต่มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของระบบช่วงล่าง ระบบบังคับเลี้ยว ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bimota ด้วยการเลือกใช้สวิงอาร์มหน้าหลัง และระบบ Hun Stearing
Ducati Panigale V4 Tricolore Italia ราคา 3.3 ล้านบาท
โมเดลพิเศษสำหรับการเฉลิมฉลองชัยชนะการแข่งขัน Italian GP ที่สนาม Mugello ในฤดูกาล 2024 ที่ผ่านมา โดยเป็นชัยชนะของ Francesco Bagnaia และยังเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่อันดับบนโพเดียม ล้วนเป็นนักแข่งของ Ducati ทั้งสามตำแหน่ง ซึ่งมี Enea Bastianini ที่คว้าอันดับสอง และ Jorge Martín ที่จบการแข่งขันด้วยอันดับที่สาม ซึ่งทางผู้ผลิตอย่าง Ducati เองก็ได้ผลิตตัวรถด้วยการคัดสรรอุปกรณ์ที่ดีกว่า Panigale V4 รุ่นมาตรฐาน อีกทั้งยังมีการผลิตเพียง 163 คัน ทำให้ตัวรถมีราคาที่สูงเป็นพิเศษ
Aston Martin AMB-001 ราคา 4.11 ล้านบาท
ผลิตภัณฑ์รุ่นพิเศษ ที่เป็นการร่วมมือกันของสองผู้ผลิตยานพาหนะชั้นนำของประเทศอังกฤษ Aston Martin และ Brough Superior โดยเจ้า AMB-001 เปิดตัวครั้งแรกที่งาน EICMA 2019 โดยเป็นการดึงเอาเอกลักษณ์ของรถยนต์หรู Aston Martin มาติดตั้งบนรถมอเตอร์ไซค์ ตัวรถจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V-twin ขนาด 997 ซีซี ที่ทรงพลังพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงที่ถ่ายทอดมาจาก F1 พร้อมกับสีตัวถังแบบ Photon Lime ที่ไม่เหมือนใคร
Arch 1S ราคา 4.20 ล้านบาท
หากเราจะคุยกันถึงรถมอเตอร์ไซค์ราคาแพงแล้ว การไม่มีแบรนด์ Arch ผู้ผลิตสายอินดี้จากอเมริกา คงจะเป็นเรื่องแปลก โดยโมเดลที่เราจะหยิบยกมาในครั้งนี้คือ Arch 1S ที่เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจาก KRGT รุ่นก่อนหน้า โดยเป็นการลดทอนสเปกของเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ต่างๆ ลง เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม โดยอิงจากเครื่องยนต์ V-twin จาก S&S Cycle ที่มีความจุ 2,032 ซีซี โครงเหล็กกล้าแบบท่อพร้อมซับเฟรมอลูมิเนียม น้ำหนักเบาและยังมีชิ้นส่วนคุณภาพเยี่ยมเช่น โช้คอัพซีรี่ส์ ARCH/Öhlins FGRT ที่ปรับได้เต็มรูปแบบ และอื่นๆ อีกมากมาย
Combat Motors Wraith ราคา 5.5 ล้านบาท
Combat Wraith ยังคงเป็นมอเตอร์ไซค์ที่พิเศษที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก Wraith จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ของ S&S และโครงรถที่ทำด้วยอลูมเนียมทั้งคัน อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้ในอากาศยาน โดยตัวรถจะมำการผลิตในรูปแบบของพรีออร์เดอร์ คือต้องจ่ายล่วงหน้าประมาณ 100,000 ปอนด์ หรือราวๆ 4.42 ล้านบาท ตั้งแต่เซ็นสัญญาในการสร้าง โดยที่ผู้ซื้อเอง ยังไม่เห็นแม้แต่น็อตสักกะตัวเดียว และหนึ่งในลูกค้าที่มั่นใจในแบรนด์ Combat Motors ก็คือ Tom Cruise นักแสดงเจ้าบทบาทระดับโลก ที่ยอมจ่ายล่วงหน้าและรออีก 24 เดือนสำหรับการสร้างตัวรถคันนี้ขึ้นมา
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
