Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

เจาะลึกศึก WSBK2018 โดยทีมงาน GreatBiker

h1

ช่วงนี้ถือว่าเป็นการพักครึ่งฤดูกาลที่จะบอกว่า ครึ่งทางก็ไม่ได้ เพราะหลังจากการพักกันยาวถึง 9 สัปดาห์ก็เหลือการแข่งขันอีกเพียง 4 สนาม 8 Race มีคะแนนให้เก็บกัน 200 คะแนน โดยผลงานจากครึ่งฤดูกาลแรกใคร เด่น ใครน่าจับตามอง ใครน่าผิดหวังมากที่สุด เรารวบรวมมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ

NVEInN.jpg

ดาวเด่นประจำครึ่งฤดูกาล 2018

NVO4a2.jpg
Honathan Rea

ดาวเด่นดวงแรกคงไม่พ้น Jonathan Rea แชมป์โลก 3 สมัยของทีม Kawasaki Racing Team ที่เก็บชัยชนะ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่หนึ่งได้ถึง 10 RACE ถึงแม้ว่าในฤดูกาลนี้จะได้ตำแหน่ง Super Pole น้อยไปหน่อยเพียง 2 ครั้ง แต่เจ้าตัวก็มีคะแนนสะสมนำโด่งที่ 370 คะแนนห่างจากอันดับที่สองอย่าง Chaz Davies นักบิดเวลส์ของทีม Aruba.it Ducati ถึง 92 คะแนน และ Rea ต้องการแชมป์อีกแค่ 4 Race จาก 8 Race ที่เหลือก็จะครองบัลลังก์แชมป์โลกสมัยที่สี่ได้อย่างแน่นอน

NVOY3g.jpg
Michael Van der Mark

ดาวเด่นอีกคนคงไม่พ้น “VDM” Michael Van der Mark นักแข่งเนเธอร์แลนด์ของทีม PATA Yamaha ที่ปีนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผิดหูผิดตาจากฤดูกาลก่อน ที่ไม่สามารถเอาชนะได้เลย ได้ขึ้นไปฉลองบนโพเดียมเพียง 2 ครั้งด้วยอันดับที่สองที่ประเทศโปรตุเกสและอันดับที่สามที่ประเทศฝรั่งเศส สวนทางกับฤดูกาลนี้ ที่สามารถเอาชนะไปได้ถึง 2 RACE ที่ประเทศอังกฤษ และขึ้นไปฉลองบนโพเดียมไปแล้วถึง 7 ครั้งด้วยกัน ในตารางคะแนนสะสมก็อยู่ในอันดับที่สวยหรู อันดับที่สาม มี 248 คะแนน ตามหลัง Chaz Davies เพียง 30 คะแนนและอยู่ห่าง Tom Sykes อยู่อีก 30 คะแนน ซึ่งอีก 2 ใน 4 สนามที่เหลือ อย่างโปรตุเกสและฝรั่งเศส “VDM” เองก็เคยสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมไว้ แบบนี้มีลุ้นจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งรองแชมป์โลกได้ไม่ยาก

NVOhnD.jpg
Javier Fores

อีกหนึ่งคนที่ถือว่าเป็นดาวเด่นไม่แพ้ใคร Javier Fores นักบิดสเปนของทีม Barni Racing Team ที่ปีนี้ขับขี่เจ้า Ducati Panigale R ได้อย่างสนุกได้ลุ้นกันทุกสนาม ผลงานของเจ้าตัวถือว่าดีขึ้นมาอีกระดับในฐานะนักแข่งเต็มเวลาปีที่สามของศึก WSBK ด้วยการขึ้นโพเดียมไปแล้วถึง 3 ครั้ง จาก 18 Race ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปไม่น้อย อีกทั้งคะแนนสะสมเองก็ไม่ได้ขี้เหร่มาก มี 164 คะแนนอยู่ในอันดับที่ 7 ซึ่งหากใครติดตามการแข่งขันโดยตลอดจะรู้ได้เลยว่าสไตล์การขี่ของเจ้าตัวนั้นคล้ายๆ กับ Marquez ในช่วงเริ่มต้น ที่กล้า บ้าบิ่นเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นนักแข่งอิสระที่ทำผลงานได้ดีที่สุดคนหนึ่งในฤดูกาลนี้

ดาวรุ่งน่าจับตามอง

NVOTPb.jpg
Toprak Razgatlioglu

ดาวรุ่งที่จะแจ้งเกิดบนเวทีนี้ค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากพอสมควร ด้วยบรรดานักแข่งเขี้ยวลากดินที่มีอยู่หลายคน จึงทำให้การแจ้งเกิดของเหล่าบรรดาดาวรุ่งค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก ซึ่งในฤดูกาลนี้ก็มีนักบิดดาวรุ่งที่ร่วมการแข่งขันเป็นปีแรกและสามารถขึ้นมายืนในตำแหน่งที่สูงพอสมควร เค้าก็คือ Toprak Razgatlioglu นักบิดตุรกีวัย 21 ปี ของทีม Kawasaki Puccetti Racing ถึงแม้ในครึ่งฤดูกาลแรกเจ้าตัวจะยังไม่สามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งได้ แต่ก็ได้ฉลองอันดับที่สองไปแล้ว 1 ครั้งที่สนาม Donington Park ประเทศอังกฤษ มีคะแนนสะสมอยู่ในอันดับที่ 9 มี 100 คะแนนเต็มซึ่งถือว่าเป็น Rookie หน้าใหม่ที่มีคะแนนสะสมในปีแรกที่มากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ WSBK เลยก็ว่าได้

ดาวร่วงประจำครึ่งฤดูกาล 2018

NVOfxy.jpg
Chaz Davies

คนแรกที่ดูแล้วเหมือนหมดอาลัยตายอยากกับการแข่งขันมากที่สุดก็คงไม่พ้น Chaz Davies อดีตแชมป์โลก WSSP 2011 ซึ่งปีนี้ก็นับว่าเป็นฤดูกาลที่ 7 ของเจ้าตัวบนเวที WSBK แล้วและดูเหมือนว่าช่วง 34 สนามมานี้ เจ้าตัวจะมีความพยายามที่น้อยลงไปในการไล่ล่าแชมป์แต่ล่ะสนาม แต่อย่างไรก็ดีเจ้าตัวมีคะแนนสะสมอยู่ในอันดับที่สอง 278 คะแนนตามหลัง Jonathan Rea อยู่ถึง 92 คะแนน และในช่วงพักยาวนี้ดูเหมือนเจ้าตัวจะต้องหาแรงบันดาลใจและกลับมาแข่งต่อและต้องพยายามอย่างหนักที่จะเอาชนะ Rea เพื่อการแย่งตำแหน่งแชมป์สักครั้งในชีวิต

NVOWWV.jpg
Loris Baz

NVOdKQ.jpg
Jordi Torres

อีกหนึ่งดาวร่วงที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ Loris Baz นักบิดฝรั่งเศสของทีม Althea BMW Racing Team ที่ผลงานย่ำแย่แบบสุดๆ มีคะแนนสะสมเพียง  86 คะแนนอยู่ในอันดับที่ 12 โดยก่อนเริ่มฤดูกาลบรรดาสื่อต่างคาดหวังว่า Baz จะใช้ประสบการณ์ 3 ปีจาก MotoGP มาช่วยยกระดับทีมและการแข่งขันให้สูงขึ้น แต่ถือว่าเป็นนักแข่งที่ผิดความคาดหมายไปมากที่สุดคนหนึ่งในฤดูกาลนี้ ตีคู่มากับอดีตนักแข่งของ BMW อย่าง Jordi Torres ที่ย้ายไปขี่ให้กับ MV Agusta ที่ผลงานลุ่มจนไปถึงราบ อันดับจมอยู่ท้ายตารางไม่แพ้คนที่มาแทนที่สักเท่าไหร่นัก ส่วนหนึ่งที่ทั้งคู่ไม่ประสบผลสำเร็จในการแข่งขันก็สืบเนื่องมาจาก ตัวแข่งที่เรียกได้ว่าเป็น Superbike รุ่นโบราณที่แทบจะไม่มีเทคโนโลยีอะไหร่มาช่วยเสริมประสิทธิภาพ มีแต่กำลังเครื่องยนต์ล้วนๆ ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปในปีหน้า หากมีการนำเอาโมเดลใหม่มาทำการแข่งขัน ผลงานจะดีขึ้นกว่านี้หรือไม่ หากทั้งสองจะไม่โดนเด้งไปซะก่อนนะ

NVO3d9.jpg

สำหรับการแข่งขัน WSBK สนามต่อไปจะทำการแข่งขันกันที่สนาม  Algarve International Circuit ประเทศโปรตุเกส ในวันที่ 15, 16 กันยายน หรืออีก 9 สัปดาห์ข้างหน้า แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตสามารถติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดและผลการแข่งขันได้ที่ GreatBiker ที่เดิมครับ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.worldsbk.com