Banner Yamaha FINN 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN 2024 400x300

Ducati Scrambler 62 พร้อมผงาดต่อกรกับค่ายคู่แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน…

ducati_scrambler_sixty2-1   ducati_scrambler_sixty2-4
และแล้วก็ได้ทราบเรทราคากันเสียทีกับความฮือฮา ที่หลายๆ คน เฝ้าติดตามและอยากรู้เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเจ้า Ducati Scrambler เครื่องยนต์ขนาด 400 ซีซี ที่มาพร้อมรหัส 62   ซึ่งนอกจากความเล็กจิ๊ดจ๊าดแล้ว ยังมีรุ่นพิเศษเพิ่มเติมในเวอร์ชั่นพิเศษภายใต้ชื่อว่า Flat Track Pro ที่งานนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมเอามาให้เห็นแบบตัวเป็นๆ กันที่งานEICMA Show เมืองมิลาน ประเทศอิตาลีกัน ด้วยนะคร๊าบ

ducati_scrambler_sixty2-5

สงสัยว่าทางค่ายต้นสังกัดของค่ายเฟอร์รารี่แดงแห่งแวดวงสองล้อกับการตลาดปีหน้าคงไม่ยอมหยุดนิ่งอีกต่อไป เพราะดูเหมือนจะมีรถบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ๆ ที่เตรียมป้อนเข้าสู่ตลาดมอเตอร์ไซค์โลกเรื่อยๆ เรียกว่าเตรียมกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าแถมยังได้ใจแฟนๆ ไบค์เกอร์ไปอีกจำนวนไม่น้อยอย่างแน่นอน

ducati_scrambler_sixty2-2

ก่อนหน้านี้หากจำกันได้ เจ้า Ducati Scrambler ในเวอร์ชั่นบล็อคเครื่องยนต์ 800 ซีซีที่เราได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปกับยอดขายที่ไม่ค่อยน่าภูมิใจเท่าไร แม้จะแก้เกมส์ ปรับโปรโมชั่นล่อตาล่อใจต่างๆ นานๆ ก็แล้วแต่ก็ยังถือว่าไม่ได้รับการตอบรับตามที่คาดการณ์กันไว้ตั้งแต่ต้น  แต่คิดว่า การส่งเจ้าน้องเล็กสุดของค่ายในขณะนี้มาต่อกรกับคู่แข่งค่ายอื่นๆ ก็อาจจะมีลุ้นสำหรับเจ้า Ducati Scrambler 62 ซึ่งด้วยชื่อชั้นและคุณภาพ ย่อมไม่ยอมทำให้แบรนด์เสียชื่ออยู่แล้ว

ducati_scrambler_sixty2-3

สำหรับดีไซน์ความแตกต่างระหว่างเจ้า Ducati Scrambler 62 กับ Ducati Scrambler รุ่นพี่  นั้นก็ถือว่าไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันมากมายเท่าไร หากจะมองผ่านๆ บางทีก็แทบจะแยกไม่ออกว่านี่คือบล็อคเครื่องยนต์ 400 ซีซี  แต่ความโดดเด่นของมันที่เห็นก็คงจะเป็นเรื่องของสีสันที่ดูจิ๊ดจ๊าดสะใจสมกับความสดใหม่ล่าสุดที่ค่ายต้นสังกัดเองภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างมาก

ducati_scrambler_sixty2-7.

สีสันที่จิ๊ดจ๊าดนี้มีด้วยกัน 3 สี 3 สไตล์ นั่นก็คือ สีฟ้า Ocean Grey, สีส้ม Atomic Tangerine, และสีดำ Shining Black  ในส่วนของบล็อคเครื่องยนต์และระบบความปลอดภัยนั้น ทางค่ายต้นสังกัดยังคงให้ความไว้วางใจกับบล็อคเครื่องยนต์แบบ L-Twin ขนาดความจุของกระบอกสูบอยู่ที่ 399 ซีซี พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ สำหรับบล็อคเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้ให้พละกำลังแรงม้าที่ 41 แรงม้า และระบบวาล์วแบบ Desmodromic  ส่วนระบบกันสะเทือนที่ด้านหน้านั้นให้มาเป็นแบบ Telescopic Showa ส่วนสวิงอาร์มด้านหลังเป็นวัสดุทีทำด้วยเหล็กดีไซน์ยังคงได้รับ DNA มาจากรุ่นพี่

ducati_scrambler_sixty2-6ducati_scrambler_sixty2-8

ส่วนในเรื่องของราคาค่าตัวที่หลายๆ คนเห็นแล้วบอกเลยว่าต้องจิ๊ดสุดๆ เพราะมีการเปิดราคาได้ใกล้เคียงกับตลาดรถญี่ปุ่นคลาสเดียวกันแตกต่างกันนิดๆ หน่อยๆ อยู่ที่คุณเพื่อนๆ ไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบรถแนวนี้กันแล้วว่าจะเลือกค่ายไหนกับความเป็นที่สุดของรถแนวคลาสสิคย้อนยุค เพราะราคาค่าตัวของมันสนนราคาอยู่ที่ราวๆ 280,000 บาท บาทเท่านั้น เรียกว่า ถ้ามาไทยเราแล้วราคายังคงไว้ซึ่งเรทนี้รับรองว่า อาจจะมีการสร้างหน้าประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เหมือนในยุคของเจ้า Monster 795 – 796 ที่ทำเอายอดขายถล่มถลายมาแล้วนั่นเอง….
ducati_scrambler_sixty2-9

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : sportrider.com
กระแสการเปิดตัวบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดบ้านเราจะมีอะไรบ้างไปดูกัน !!!