Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

All New Honda CBR400R 2019 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

blank

เปิดตัวกันอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับรถสปอร์ตแฟริ่งคันล่าสุดจากทางค่ายปีกนก Honda กับ All New CBR400R โมเดล 2019 ที่มาพร้อมกับนิยามว่า น้ำหนักเบา, ควบคุมได้ง่าย และมีความเป็นสปอร์ต “เพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจ และอิสระเสรีอย่างเต็มที่” ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทางค่ายต้องการจะสื่อสารออกมาให้กับเหล่าผู้บริโภค โดยตัวรถนั้นได้ออกแบบให้มีสไตล์ที่ดุดันก้าวร้าวมากขึ้น และมีอารมณ์เดียวกันกับรถในรหัส RR จากทางค่ายเดียวกันนั่นเอง

T9rjol.jpg

ในช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา ทาง Honda เองนั้นได้เคยเปิดตัวรถอย่าง All New CBR500R ครั้งแรกในโลกที่งาน EICMA Show ที่ประเทศอิตาลี่กันไปแล้ว ครั้งนี้ก็มาถึงทีของสเปกฝั่งญี่ปุ่นกันบ้างกับ All New CBR400R ที่จะมาในพิกัดเครื่องยนต์ขนาด 399cc แบบ DOHC 4 จังหวะ 2 สูบเรียง ให้แรงม้าสุงสุดที่ 46 ตัวที่ 9,000 รอบต่อนาที และทอร์คอยู่ที่ 38 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของประเภทใบขับขี่ในประเทศญี่ปุ่น กับจำนวนของ cc และตัวรถนั้นจะเน้นแรงบิดในย่านความเร็วต่ำถึงกลางที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีกว่าโมเดลเดิมอย่างเห็นได้ชัด ส่วนระบบเบรกนั้นเป็นแบบดิสก์รูปทรงคลื่นทั้งหน้าและหลัง ทำงานร่วมกับ ABS

T9rbte.jpg

นอกเหนือไปจากการออกแบบดีไซน์ ที่มีความเป็นสปอร์ตมากขึ้น และขุมกำลังที่ได้รับการปรับปรุงกันมาแล้ว ก็ยังมีการปรับปรุงในด้านของฟีเจอร์ต่างๆ ของตัวรถมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระบบ Assist and Slipper Clutch ที่จะช่วยลดการล็อคของล้อหลังและท้ายปัด เวลามีการเชนเกียร์จากสูงไปเกียร์ต่ำในระยะเวลาอันรวดเร็ว และท่อที่ออกแบบมาใหม่เป็นแบบปลายคู่ หน้าจอแสดงผลแบบใหม่ล่าสุดที่เป็นดิจิตอลเต็มรูปแบบ มีตำแหน่งไฟบอกเกียร์และไฟชิฟท์ไลท์ ที่จะคอยแจ้งเตือนในเวลาที่เราควรจะต้องเพิ่มเกียร์ โช้คอัพด้านหลังแบบใหม่ที่นอกจากจะลดแรงสะเทือนได้ดีกว่าเดิมแล้ว ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมให้ดีขึ้นด้วย รวมไปถึงระบบไฟ LED แบบรอบคัน ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่ามันเสริมให้ตัวรถ All New CBR400R นั้นยกระดับขึ้นมาจากเดิมแบบจริงจังเอามากๆ

T9rlJk.jpg

โดย All New CBR400R นั้นเปิดตัวมาอยู่ทั้งหมด 3 สีด้วยกันก็คือสีแดง Grand Prix Red, สีเทา Matte Axis Gray Metallic และสีขาวมุก Pearl glare white ซึ่งจะวางจำหน่ายกันที่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2019 เป็นต้นไปในราคา 793,800 เยน หรือประมาณ 228,000 บาท

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก young-machine.com