Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

honda-crf250m

ขอเปลี่ยนแนวมารีวิวรถแนวโมตาร์ดจากทางค่าย Honda กันบ้าง ซึ่งตัวนี้ก็วางจำหน่ายในบ้านเรามาพอสมควรแล้ว เป็นการต่อยอดมากจากรุ่นวิบากเต็มตัวอย่าง CRF250L ซึ่งถือว่ามาบุกเบิกตลาดรถแนวนี้ของค่ายฮอนด้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งเจ้าตัว Honda 250M นี้มาพร้อมกับล้อซี่ลวดขนาด 17 นิ้ว และยางที่กว้างกว่าตัว 250L เพื่อให้มีหน้ายางเกาะถนนมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงแก้ไขเรื่องของช่วงล่างและโช้คให้เหมาะสมกับแนวโมตาร์ดมากยิ่งขึ้นด้วย

blank

เจ้า CRF250M นั้นมาในเครื่องขนาด 250cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ DOHC สูบเดียว พ่วงมากับแรงม้าที่ 22.7 ตัว โช้คหน้าใช้ของ Showa แบบหัวกลับขนาด 43mm ระบบเบรคใช้ดิสก์เบรคหน้าหลัง ขนาด 296mm และ 220mm ตามลำดับ ซึ่งทำงานได้เป็นอย่างดีในการใช้งานจริง

blank

ข้อดีที่สุดของรถแนวโมตาร์ดก็คือนอกจากมันจะสามารถวิ่งบนท้องถนนทั่วๆ ไปได้ดีกว่ารถทรงวิบากเต็มตัวแล้ว มันก็ยังคงสามารถเอาไปลุยตามทาง off-road ได้บ้าง โดยจากการทดสอบใช้งานนั้นพบว่ามันมีความคล่องตัวสูง น้ำหนักเบา และช่วงล่างที่ไว้ใจได้ ทำให้เวลาเจอกับหลุม หรือพื้นขรุขระ เราสามารถที่จะรูดไปกับมันได้เลยโดยไม่ต้องหลบเหมือนกับรถทรงธรรมดา แต่ก็ต้องแลกมากับท่านั่งที่ไม่สบายมากนักเวลาเดินทางไกลๆ ช่วงเบาะที่ค่อนข้างจะแคบ อีกอย่างที่สำคัญก็คือการที่รถมันถูกออกแบบมาโดยใช้เพียงสูบเดียวในขนาดเครื่อง 250cc นั้นก็หมายความว่าคุณจะได้ทอร์คช่วงต้นอย่างพอมือ แต่มันจะไปหมดที่ความเร็วปลายอย่างช่วยไม่ได้ ตรงนี้คงจะต้องทำความเข้าใจมันก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหรือไม่ เพราะหากคิดว่าจะเอามันมาบิดทำความเร็วเป็นหลักคงไม่ใช่แน่ๆ

blank

เวลาทดสอบขี่ออกทริปไปยาวๆ จะพบว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ด้วยท่านั่งที่โต้ลมและตัวรถที่น้ำหนักเบามันเลยดูจะเหนื่อยๆ ไปนิด ซึ่งที่เหมาะสมกับมันที่สุดก็น่าจะเป็นการขี่สนุกๆ ในเมืองมากกว่า และก็พวกทางลุยต่างๆ บ้าง (แม้ว่ามันจะลุยได้ไม่เท่าตัวล้อหนามก็ตาม) ทีนี้มันก็จะสามารถแสดงประสิทธิภาพของมันได้อย่างสูงสุด และคุณจะสนุกไปกับมัน

blank

แม้ว่าตัวนี้เองอาจจะดูเงียบๆ ไปบ้างในบ้านเรา เพราะตัวรุ่นพี่อย่าง CRF250L ที่เปิดตัวไปก่อนนั้นทำยอดขายไปได้เยอะแล้ว แต่มันก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคอโมตาร์ดที่ไม่ต้องการรถแรงมากเกินไป (ซึ่งรถแนวนี้ก็ไม่จำเป็นต้องแรงจัดอยู่แล้ว) ในราคาที่ไม่แพงมากอยู่ในช่วงประมาณแสนสาม (ขึ้นอยู่กับราคาของแต่ละร้านอีกที) ด้วยแบรนด์ของฮอนด้าที่เชื่อใจได้ และอะไหล่ที่หาหยิบจับกันง่ายรวมไปถึงเรื่องของศูนย์บริการ ก็น่าจะพอทำให้คนที่กำลังเล็งๆ มันไว้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นจริงมั้ยครับ

ขอบคุณภาพจาก Honda blog.motorcycle.com