Harley-Davidson Sportster XL1200X Forty Eight

ถ้าจะพูดถึงรถในตำนานที่มีประวัติมาอย่างยาวนานสำหรับ Harley-Davidson ถือว่าชาวไบค์เกอร์ทุกคนต้องรู้จักมัน และคงมีสักครั้งที่ใฝ่ฝันอยากจะได้มันมาครอบครอง สำหรับรุ่นที่ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่ารุ่นอื่นๆ ในไทย ก็เห็นจะเป็นเจ้า Harley-Davidson Sportster XL1200X Forty Eight เพราะถือว่าเป็นตัวที่เข้ามาทำให้คนไทยรู้จัก Harley-Davidson ได้มากขึ้น และจับต้องมันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย กับราคาที่ถ้ามองแล้ว ได้ทั้งความเท่ห์และความเป็นตำนานก็ถือว่าคุ้มไม่น้อยเลยทีเดียว

โดยทางต้นสังกัดได้ตั้งข้อจำกัดไว้หลากหลายเพื่อต้องการให้มาเติมเต็มในช่องโหว่ระหว่างฐานลูกค้าระดับบนและระดับกลาง  และเจ้า “Forty-Eight” นี่แหละที่มันคือคำตอบของคนที่อยากจะขับขี่รถ Harley-Davidson เพราะมันทั้งสวยและเนี้ยบทุกมุมมอง แถมยังเป็นรถที่ขับขี่และควบคุมได้ง่ายเหมือนม้าที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก่อนที่จะทำการส่งมอบให้ผู้ขับขี่ทุกคน

บางคนบอกว่าที่ไม่อยากเลือก Harley-Davidson เพราะด้วยรูปลักษณ์ของมันที่ทำตลาดตัวใหม่ออกมาเมื่อไร ก็เหมือนกันแทบจะทุกรุ่น  ไม่มีอะไรที่ให้ความแตกต่างกันเลย  นอกจากสีของตัวรถ  จนหนึ่งในนั้นทางค่ายได้วางแผนที่จะทำตลาดในรุ่น “Forty-Eight” ออกมา ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในรถตระกูล Sportster ที่ต้องบอกเลยว่า ได้รับการจารึกไปแล้วว่าสามารถที่จะทำยอดขายได้มากที่สุดของบริษัท  ด้วยความเรียบง่ายในสไตล์การขับขี่ที่ผสานกับนักออกแบบหัวใหม่ๆ ที่สามารถจะแยกกระแสจากรถเดิมๆ ของมันในตระกูลแต่ก็ยังคงรักษาความเก๋าไว้ได้อย่างลงตัว  ด้วยเครื่องยอดนิยมที่สรรค์สร้างใส่ลงไปในตัวรถอย่างเครื่อง V-twin ที่ใช้ระบบบระบายความร้อนด้วยอากาศแบบเดิม  ที่มาพร้อมความจุของกระบอกสูบที่ 1,200 ซีซี  เพราะต้องการที่จะเน้นความสปอร์ตมากขึ้น  ส่วนในเรื่องของการเลือกใช้ยางหน้า ยางหลังขนาดใหญ่ ปรับแต่งให้ตัวรถมีขนาดที่กำลังน่าจะขับขี่ ไม่ใหญ่และหนักจนเกินไป จนบทสรุปแล้วจนคลอดออกมาได้เป็นเจ้า “Forty-Eight”

Harley-Davidson อย่างที่รู้ๆ กันว่ามันเป็นรถที่บ่งบอกความเป็นสัญชาติอเมริกัน มันไม่ใช่แค่รูปทรงหรือแม้แต่เครื่องยนต์ซึ่ง เจ้า HARLEY-DAVIDSON XL 1200 X Forty-Eight คันนี้มาพร้อมเครื่องเบนซิน 4 จังหวะ 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ มีขนาดความจุ (สุทธิ) 1,202 ซีซี. โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นเครื่องที่พัฒนาแล้วจนกลายเป็น Evolution กระบอกสูบ x ระยะชักอยู่ที่ 88.9 x 96.8 มม. กำลังอัดอยู่ที่ 10.0:1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ ESPFI เน้นการตอบสนองไวไม่ต้องรอรอบ พร้อมระบบเกียร์แบบธรรมดา 5 สปิด ระบบคลัทช์ที่ให้มาเป็นแบบเปียกสั่งงานผ่านสายสลิงขับเคลื่อนด้วยสายพานและระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยระบบไฟฟ้า

สำหรับโครงสร้างตัวถังและเฟรมของเจ้า “Forty-Eight” ตัวนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีทั้งในเรื่องของการวางเครื่องยนต์ ได้รับการคัดสรรวัสดุอย่างดีแบบ anti-chrome motorcycle โดยมีล้อทั้งสองล้อเป็นแบบ Black, 13-Spoke Cast Aluminum พร้อมระบบกันสะเทือนแบบพิเศษ  ที่มาพร้อมกับเบาะหนังสีดำแบบ 1 ที่นั่ง  พร้อมสไตล์โคมไฟดวงใหญ่ 1 ดวง  และตัวกระจกมองหลังแบบก้านสั้นที่ติดอยู่ปลายแฮนด์ด้านข้าง พร้อมมาตรวัดหน้าปัดแสดงข้อมูลแบบอนาล็อค คงไว้เป็นเอกลักษณ์ สำหรับยางหน้าที่ให้มามีขนาดไซส์ยางอยู่ที่ 130/90B16 73H  และยางหลังเองมีขนาดไซส์ยางอยู่ที่ 150/80B16 77H  โดยมีความจุของถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 7.9 ลิตรและมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 255 กิโลกรัม  ระบบเบรกมาพร้อม ABS สีของตัวรถเป็น สีพิเศษ Hard Candy Custom ไม่สามารถทำลอกเลียนแบบได้ และระบบ Keyless สามารถเปิดสวิสต์ On-Off สตาร์ทได้ทันทีด้วยบลูทูธ  ซึ่งสำหรับในรุ่นมาตรฐานนี้สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 869,000 บาท  ใครที่มีความชื่นชอบและหลงใหลกับเจ้าค่ายรถมอเตอร์ไซค์ที่มีประวัติและตำนานอันยาวนาน จากแดนมะกันก็ไม่ควรจะพลาดกันเลยทีเดียวงานนี้

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : harley-davidsonbangkok.com