Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

เผยภาพ render ล่าสุดของ All New Kawasaki Ninja 250/300

ninja

มีความเคลื่อนไหวล่าสุดสำหรับรถในแนวสปอร์ตแฟร์ริ่งในระดับ entry class จากทางฝั่งของค่ายยักษ์เขียวมาฝากกัน นั่นก็คือภาพ render ล่าสุดของ All New Kawasaki Ninja 250/300 ที่ตอนนี้มีภาพที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมเผยออกมาให้เห็นกันแล้ว หลังจากที่มีข่าวลือกันมานาน ดังนั้นแล้วเท่ากับว่าอีกไม่นานเกินรอ เราน่าจะได้เห็นเจ้าโมเดลนี้กันแบบตัวเป็นๆ

โดยเมื่อไม่นานมานี้เรามีภาพหลุดต่างๆ ของโมเดลรุ่นนี้ปรากฏให้เห็นกันตามหน้าของอินเตอร์เน็ท ซึ่งมาจากทางสื่อของญี่ปุ่นเองเสียส่วนใหญ่ โดยมีการให้ข้อมูลมาว่า Ninja 250 และ 300 (สำหรับจำหน่ายในบางประเทศอย่างเช่นประเทศไทย) นั้นจะถูกผลิตเป็นแบบโมเดลจริงเร็วๆ นี้ ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นการปล่อยมันมาชนกับคู่แข่งในท้องตลาดอย่าง CBR250RR และ YZF-R3 ด้วย และการ update ล่าสุดก็คือภาพ render จากทางนิตยสารชื่อดังจากทางฝั่งญี่ปุ่นอย่าง Young Machine ที่เราเห็นกันนี้ ทีนี้เราจะมาดูกันว่าข้อมูลในตอนนี้ที่เราพอจะทราบเกี่ยวกับเจ้า Ninja ตัวใหม่นี้มีอะไรกันบ้าง

https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/v/t31.0-8/s960x960/15540951_1514927331868849_7587069958233278488_o.jpg?oh=195fe35fc327fbdc069dc534d59cdd3b&oe=58E00208

จากภาพที่เราเห็น จะเห็นได้ว่าโช้คอัพด้านหน้านั้นเป็นแบบเทเลสโคปิกหัวกลับ (Upside Down) อย่างแน่นอน แม้ว่าในภาพหลุดบางภาพก่อนหน้านี้จะเห็นว่าเป็นแบบธรรมดา แต่ตอนนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าสาวก Ninja จะได้สัมผัสกับโช้คหัวกลับ ที่ซับแรงสะเทือนได้ดีกว่าปกติ ทำให้การทรงตัวในโค้งหนักๆ ทำได้ดีมากยิ่งขึ้น ส่วนการดีไซน์โดยรวมของตัวรถนั้นถือว่ายังคงเอกลักษณ์ของทางค่ายไว้ ก็คือเน้นเส้นสายที่ดุดันแหลมคมในการออกแบบเป็นหลัก และทั้งหมดนี้ก็เป็นการส่งเสริมให้การทำ aero dynamic นั้นออกมาดีก้วย

kawasaki-ninja-r-jpg
ภาพหลุดที่เราเห็นกันมาก่อนหน้านี้

ส่วนต่อมาที่เราจะมาดูกันนั่นก็คือในเรื่องของเบรก ที่เปลี่ยนมาใช้เบรกหน้าแบบ radial caliper mounting และสวิงอาร์มหลังนั้นเปลี่ยนมาใช้แบบอลูมิเนียม และแน่นอนว่ากับคำถามที่ใครหลายๆ คนอาจจะค้างคาใจว่าตกลงเครือ่งยนต์ 250 บล็อกนี้จะเป็นแบบ 2 สูบหรือว่า 4 สูบกันแน่ ตอนนี้ค่อนข้างสรุปออกมาชัดเจนแล้วว่าจะยังคงเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียงเหมือนเดิม แต่แน่นอนว่าจะต้องมีการปรับจูนทั้งทอร์คและแรงม้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม ตรงนี้เองดูเหมือนว่าจะกลายเป็นจุดที่ต้องมาแข่งกันเป็นพิเศษสำหรับรถในคลาสเริ่มต้นยุคใหม่กันแล้ว จากที่เมื่อก่อนอาจจะไม่ได้เน้นในเรื่องของความเร็วมากเท่าไหร่นัก

ส่วนออพชั่นอื่นๆ นั้นคาดว่ายังคงมีมาให้เหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ABS, Slipper Clutch และเราต้องมาลุ้นกันว่าจะมีโหมดในการขับขี่ออกมาให้เลือกเหมือนกันกับคู่แข่งอย่าง CBR250RR หรือเปล่า หากว่าถึงวาระที่มีการผลิตจริงๆ ขึ้นมา ก็เชื่อว่าประเทศไทยเราจะเป็นฐานผลิตหลักของโมเดลนี้เหมือนเช่นที่ผ่านๆ มาอย่างแน่นอน อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวกันได้ทาง GreatBiker เช่นเคย

ขอบคุณภาพจาก young machine warungasep.net