รีวิว Harley Davidson FAT BOY® SPECIAL

แน่นอนว่าใครในที่นี้คงจะรู้จักมอเตอร์ไซค์แนวครุยเซอร์ที่ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งมาตลอดกาล แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ชื่อนี้ แม้แต่ผู้หญิงบางคนก็ยังรู้จัก  นั่นก็คือเจ้ามอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ Harley Davidson แล้ววันนี้ก็เป็นฤกษ์งามยามดี เราจึงอยากจะขอพาเพื่อนๆ ไบค์เกอร์ทุกท่านไปทำความรู้จักกับมันสักหน่อย นั่นก็คือเจ้า Harley Davidson FAT BOY® SPECIAL แค่ชื่อก็งามแล้ว….ส่วนตัวรถจะมีรูปลักษณ์และสเปคต่างๆ เป็นอย่างไร เราไปตามต่อกันเลย….

สำหรับเจ้า Harley Davidson FAT BOY® SPECIAL คันนี้ถือว่ามีเสน่ห์ด้วยตัวของมันเองเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบและดีไซน์ที่ถือว่าเป็นมนต์เสน่ห์ของทางค่าย Harley Davidson สมกับการเป็นรถสายพันธุ์อเมริกันที่มีประวัติและตำนานมาอย่างยาวนาน  เชื่อว่าผู้ชายทุกคนก็ต้องมีความใฝ่ฝันที่อยากจะได้มันมาครอบครองไม่น้อย….

เรามาเริ่มกันที่ดีไซน์ของเจ้าคันนี้กันหน่อย โดยภาพรวมแล้วถือว่ามันเป็นรถแนวครุยเซอร์ที่มีความคลาสสิคและสวยงามมากๆ อยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว  จานไฟหน้า ที่ให้มิติทรงกลมขนาดใหญ่ ดูแล้วคลาสสิคเสียนี่กระไร รับกับตัวแฮนด์บาร์แบบกว้างตามแบบฉบับของ Harley Davidson เลื่อนมาต่อที่ตำแหน่งของปลายแฮนด์ทั้งด้านขวาและด้านซ้าย จะเป็นตำแหน่งของไฟเลี้ยว  ซึ่งจัดวางได้อย่างพอเหมาะพร้อมกันนั้นยังดูไม่เกะกะกับช่วงด้านบนที่เป็นตำแหน่งของกระจกมองข้างนั่นเอง  นอกจากนี้ยังมีตัวเรือนไมล์มาตรวัดต่างๆ ให้มาทั้งสองแบบ  ไม่ว่าจะเป็นในแบบอนาลอคหรือดิจิตอลพร้อมการแสดงผลแบบ LED ไปที่ท้ายสุดก็คือ….บั้นท้ายตัวรถกันบ้าง ก็มีความสวยงามด้วยบังโคลนแบบเต็มตัวรถรับกับตัวไฟท้าย และไฟเลี้ยวแบบก้าน

เลื่อนมาที่การจัดวางและออกแบบถังน้ำมันของเจ้า Harley Davidson คันนี้กันสักหน่อย รูปทรงที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์นั่นก็คือ ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ วางตำแหน่งในแนวนอน  ด้านข้างยังบ่งบอกถึงแบรนด์ครุยเซอร์สายพันธ์อเมริกันได้อย่างชัดเจน โครงสร้างของมันส่วนใหญ่จะเลือกใช้วัสดุแบบโครเมี่ยม ที่มีขนาดหน้ากว้างและใหญ่เป็นพิเศษ ส่วนในเรื่องของความคงทนแข็งแรง ก็คงไม่ต้องพูดถึงเพราะมันไว้ใจได้อย่างแน่นอน สำหรับตัวเบาะนั่งที่ให้มาจะเป็นแบบ 2 ที่นั่งแยกส่วนเบาะนั่ง 2 ชั้นขนาดใหญ่ แบบต่างระดับตามแบบฉบับของรถแนวๆ ครุยเซอร์นั่นเอง

สำหรับ Harley Davidson FAT BOY® SPECIAL ถือเป็นอีกรุ่นที่เลือกใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ในการขับเคลื่อนรถ โดยมันมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1,585 ซีซี ด้วยเครื่องยนต์แบบ Twin Cam 103B ที่ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของค่าย Harley Davidson  (ฮาเล่ย์ เดวิสัน) มาพร้อมกับระบบการระบายความร้อนด้วยอากาศ โดยมีอัตราการอัดอยู่ที่ 9.2 : 1 พร้อมให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 61 แรงม้าที่ 3250 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 132 นิวตันเมตรที่ 3250 รอบต่อนาที สำหรับระยะช่วงชักและความกว้างของกระบอกสูบอยู่ที่  95.3 x 111.1 มม.  ซึ่งก็ถือว่าใหญ่มากๆ จึงไม่น่าจะแปลกใจสำหรับแรงม้าที่ได้มาขนาดนี้เจ้า Harley Davidson FAT BOY® SPECIAL  คันนี้มีระบบเชื้อเพลิงเป็นแบบ Electronic Sequential Port Fuel Injection หรือที่เรียกว่าสั้นๆ ว่า   ESPFI  ตัวนี้มาพร้อมถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่สามารถจุได้มากถึง 18.9 ลิตรเลยทีเดียว แต่ก็แน่นอนว่ามันก็ต้องมีความสมดุลกับตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่พอๆ กับบล็อคเครื่องยนต์ขนาดกลางของรถยนต์กันเลยทีเดียว…  ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์แบบ 6 สปีด พร้อมระบบคลัชมือ… อีกสิ่งหนึ่งที่เจ้า Harley Davidson FAT BOY® SPECIAL ก็คือการวางบล็อกเครื่องยนต์ที่สวยงามโชว์ความแข็งแรงพร้อมมัดกล้ามเครื่องยนต์ได้อย่างชัด และที่สำคัญ ยังมีการวางตำแหน่งและเดินตัวท่อออกมาสิ้นสุดด้วยท่อไอเสียปลายโครเมียมคู่ได้อย่างโดดเด่น…

สำหรับเรื่องของความปลอดภัยและระบบกันสะเทือนต่างๆ ก็ถือว่าให้มาแบบไม่มีกั๊กอีกเช่นกัน….จึงไม่แปลกที่มันจะมีราคาค่าตัวที่ค่อนข้างสูง…. ระบบกันสะเทือนในด้านหน้าให้มาเป็นโช้คอัพแบบหัวกลับ Telescopic ขนาด 41.3 มม. ส่วนด้านหลัง เป็นแบบ Hidden, horizontal-mounted, coil-over ถัดมา เป็นเรื่องของระบบเบรกห้ามล้อ ด้านหน้ามาพร้อมกับระบบเบรกแบบ 4 Piston และที่ล้อด้านหลังให้มากับระบบเบรกแบบ 2 Piston พร้อมการควบคุมระบบเบรกทั้งหมดแบบ ABS และด้วยรถที่มีขนาดใหญ่ทำให้มีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมาก  ซึ่งมันมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 318 กิโลกรัม แต่ก็คงให้ความมั่นใจในทุกเส้นทางการขับขี่ ด้วยไซส์ยางทั้งด้านหน้าและด้านหลังขนาดใหญ่ตามมาด้วย โดยด้านหน้าจะมีไซส์ของยางอยู่ที่ 140/75R17 67V และด้านหลังจะอยู่ที่ 200/55R17 78V  เจ้า Harley Davidson FAT BOY® SPECIAL   มีมิติตัวรถอยู่ที่ ความยาว x ความกว้าง x ความสูง  2385 มม. x 910 มม. x 1085 มม.  มีเรื่องหนึ่งที่หน้าแปลกใจและมันทำเซอร์ไพร์ ถึงแม้ว่าตัวของมันจะมีน้ำหนักที่มากมายขนาดนี้แต่มันก็สามารถที่จะทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

สำหรับเจ้าตัวนี้นั้นสนนราคาค่าตัวเริ่มต้นอยู่ที่ 1,349,000 – 1,399,000 บาท เลยทีเดียว แต่แน่นอนว่าใครก็ตามที่เป็นคอรถบิ๊กไบค์แนวครุยเซอร์ ย่อมรู้ถึงชื่อเสียงเรียงนาม และกิตติดศัพท์ของ Harley Davidson และไม่ว่ามันจะมีราคาสูงเพียงใด แต่ก็หาได้ระคายเคืองกระเป๋าสตางค์ของผู้มีอันจะกินแม้แต่นิดเดียว…แลกกับความเท่ห์ แลกกับความเป็นตำนาน แลกกับความเป้นสุดยอด….ถือว่ามันคุ้มค่าเกินราคา……

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : harley-davidsonbangkok.com